สวย ใส น่ารัก

วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ทำไมคิดเลขผิดบ่อย


ทำไมคิดเลขผิดบ่อย
ต้องดูก่อนว่าผิดเพราะอะไร ผิดเพราะไม่เข้าใจขั้นตอน ผิดเพราะคิดไม่ได้ หรือผิดเพราะ หลง ลืม ข้าม เผอเรอ ขอวิเคราะห์ว่า ที่เป็นอย่างนั้นเพราะ 1. เชื่อมั่นตัวเองเกินไป 2. ชอบคิดลัด ข้ามขั้นตอน 3. ตั้งใจรีบทำให้เสร็จ โดยไม่คำนึงว่าจะถูกหรือไม่ 4. ทำแบบรวดเร็ว และเร็วมากๆ ขณะเดียวกัน ใจก็ไม่จดจ่อกับสิ่งทำ สมาธิต่ำ 5. คิดวิธีได้แล้ว ดังนั้น การทำก็ไม่ยาก 6. แม้จำสูตรได้ แต่ขาดรายละเอียด หรือจำสูตรได้ไม่ครบทุกตัว มาดูวิธีแก้กัน 1. เรื่องความเชื่อมั่นในตัวเอง นั้น เป็นสิ่งที่ดี และดีมาก มันจะเป็นผลเสียก็ต่อเมื่อ ไม่ฟังใคร หรือแม้แต่ตัวเอง ผมเจอมาเยอะแล้ว นายกทักษิณ เป็นตัวอย่างหนึ่ง ของคนประเภทนี้ ส่วนผลจะออกมาดีหรือไม่ดี เอาไว้วันหลังค่อยว่ากัน .... เราแก้โดย ติดต่อคนให้มากขึ้น โดยเฉพาะคนเก่งๆ หรือ เก่งกว่า หรือ โคตรเก่ง และเก่ง อิ๋บอ่าย ประเภทเซียนยังถอยเทพยังต้องหลีกทาง พอเจอคนแบบนี้ ต่อให้เชื่อมั่นตัวเองว่าเก่งเพียงไร ก็ต้องถอย เว้นเสียแต่ว่า เป็นจอมแถ ... ที่ชอบแถว่า โอ้ยมันไม่เก่งจริงดอก ที่มันทำได้ก็เพระขยันนั่นเอง ... ถ้าไม่ยอมรับความจริง ไม่ยอมรับ ว่าตัวเองเชื่อมั่น ตนเองมากซะ จน เกิน ไปล่ะก้อแก้ไม่ได้ครับ ดังนั้นต้องลดความเชื่อมั่นตนเองในส่วนนี้ลงมาก่อน ลด ego ลง แล้วใช้ EQ ให้มากขึ้น รับประกัน ถ้าแก้ตรงนี้ได้ หรือระลึก ตัวได้ว่า เอาอีกแล้ว ตรู... เอาอีกแล้ว ไม่นานจะดีขึ้น น่าเดือนแรกก็เห็นผลแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องลดลงให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได จนอยู่ใน Norm ครับ 2. การคิดลัด หรือข้ามขั้นตอน เป็น ความผิดมหันต์ ที่ชี้เป็นชี้ตายของนักเรียนนักศึกษาเลยทีเดียว แต่ไม่เคยมีคนบอก ส่วนใหญ่จะบอกว่า เอาน่า ทำไปเหอะ เสร็จแล้วถือว่าเสร็จ แก้โดย ....... ทำทุกขั้นตอน และเพิ่ม ขั้นตอนการทำอีก 20 - 25 % ก่อนจะข้ามไปแต่ละขั้นตอน ให้ทวนของเดิม ซะก่อนว่า ถูกต้องแล้ว จึงเดินหน้าต่อไปอีกขั้นหนึ่งเสมอ ตรงนี้ต้องฝึกเป็นนิสัย เสียแต่วันนี้ ไม่งั้น วันหน้ามีลูกมีเมีย ลูกคุณจะเป็นเด็กชาย “ข้ามขั้นตอน” เหมือนพ่อมัน และจะเป็นเด็กที่แย่กว่าพ่อมันอีกสองเท่า 3. นักเรียนนักศึกษา เดี๋ยวนี้ ถ้ามีอะไร ที่เปื้อนกระดาษไป ส่งครู อาจารย์แล้วจะคิดว่า”ได้ส่ง” ให้มันพ้นๆ ภาระไป วิธีคิดแบบนี้ เป็นการคิดที่โง่มาก และมีคนทำแบบนี้มากมาย คุณภาพของการศึกษามันถึงห่วยออกมาอย่างที่เห็นทุกวันนี้ไง ครั้งที่ผม ยังเรียนหนังสืออยู่นั้น ผมตั้งใจทำดีมาก และดีมากๆ ด้วย ดีจนกระทั่ง ครูอาจารย์ต่างไม่เชื่อว่าผมทำเอง ต่างคิดไปว่า ผมเอาของรุ่นพี่มาส่ง ไม่ก็ไปจ้างคนอื่นทำให้ เพราะไม่เชื่อว่าเด็ก ป.6 แบบผมจะทำได้ถึงเพียงนั้น ผลคือ ผมได้คะแนนงานน้อยไปมาก เด็กครับ ได้แต่อ้ำอึ้ง พูดไม่ออก อธิบายไม่ได้ ได้แต่ คิดว่า ทำไมหนอ เขาไม่เชื่อว่าเราทำ มาวันนี้ ก็คิดอยู่ว่า หากวันใดได้เป็นครูอาจารย์ กับเขา จะให้ความยุติธรรมแก่ศิษย์ โดยเสมอ จะให้โอกาสเด็กอธิบาย หากเด็กอธิบายไม่ได้ ก็จะค่อยๆ ตะล่อมถามไป ทีละน้อย ทีละน้อย จนได้คำตอบ เชื่อว่าคงจะดีกว่าแบบที่ผมถูกกระทำมา เอาหละมาดูวิธีแก้กัน ..... วิธีคิดที่ว่าต้องรีบทำให้เสร็จ นั้น แก้โดย การวางแผนการทำงาน และเข้มงวด มีวินัยกับตนเอง (เรื่องวินัย นี่ยากมาก สำหรับเด็กที่ถูก spoil มาตลอดตั้งแต่เล็กจนโต) ให้วางแผนการทำงานที่ได้รับมอบหมายตามขั้นตอนโดยละเอียด หลังจากนั้นให้เข้มงวดการทำงานตามแผน อย่างเคร่งครัด จุดนี้จะช่วยได้มาก เมื่อเริ่มทำไป ต้อง ตรวจสอบ สอบทาน ทุกครั้งทุกขั้นตอนเสมอ ฝึกให้เป็นนิสัย แล้วผลงานจะออกมาดี ถ้าเป็นแบบฝึกหัด ต้องตรวจตำตอบ หรือทวนวิธีทำ โดยเปลี่ยนตัวเลข หรือใส่คำตอบ แล้วคิดย้อนกลับไป ห้ามทวนโดย ตัวเลขแบบเดิม หรือวิธีเดิม จะต้องทวนโดยใช้วิธีที่ต่างออกไป 4. ทำแบบรวดเร็ว และเร็วมากๆ ขณะเดียวกัน ใจก็ไม่จดจ่อกับสิ่งทำ สมาธิต่ำ แก้โดย เพิ่มสมาธิในการทำงาน ......... เรื่องสมาธินี้ หลายคนบอกว่า ตัวเอง เป็นเด็กสมาธิสั้น แต่พอให้นั่งเล่นเกมส์ มันนั่งรวดเดียว 5 ชั่วโมง ข้าวน้ำไม่แตะ อย่างนี้ไม่เรียกว่าสมาธิสั้น เพื่อน ผมหลายคนเอาลูกมาถาม บอกว่า ลูกอั๊วสมาธิสั้นว่ะ ให้ทำอะไร ไม่เกิน 5 นาทีมันทิ้งแล้ว ผมจับเด็กคนนั้นมานั่งเล่นเกมส์ เด็กเล่นได้ทั้งวันไม่ลุกไปไหนเลย จึงบอกเพื่อนไปว่า ….ลูกลื้อไม่ได้สมาธิสั้นดอก แต่ที่มีปัญหาคือ ตัวพ่อมันเอง พ่อมันไม่อดทนพอที่จะเลี้ยงลูกให้นั่งทำงาน โดยมีใจจดจ่อ จขกท โตแล้ว ต้องฝึกบังคับใจตนเอง ฝึกให้มีใจจดจ่อ แรกๆทีเดียว อาจยากมาก ให้ฝึกทุกวัน วันละ 5 นาที แล้วเพิ่มไปเป็น 6 – 7 – 8 – 9 - 10 พอได้เกิน 10 ถือว่าดีมาก การฝึกทำได้ง่ายมาก โดยฝึกขณะเข้านอน เมื่อนอนลงไปแล้ว ให้นึกถึงสิ่งที่ใกล้ตัว เช่น หมอน ที่หนุนหัวอยู่ ให้เพ่งสมาธิไปที่หมอน แล้วพูดในใจกับตัวเองว่า หนุนหมอน....หนุนหมอน.....หนุนหมอน....... ท่องไปอย่างนั้น โดยไม่ให้จิตใจ ความคิดไปที่อื่น ให้ทำ 3 – 5 นาที ในวันแรก แล้วก็บอกกับตัวเองว่า หลับซะ หลับซะ หลับได้แล้วววววว ....... โดยจิตใจ ไม่คิดเรื่องอื่น ไม่เกิน 5 นาที หลังจากนั้น จะหลับโดยง่าย ทำทุกวัน ถ้าไม่ชิน ก็ 3 – 5วันแรก ทำซัก 3 นาที แล้วเพิ่ม เป็น 5 นาที ในวันหลังๆ เมื่อฝึกได้ คุณจะคุมสมาธิตนเองได้ ต่อไปจะทำอะไรก็ง่ายแล้ว ฝึกดูครับ พอทำได้ ต้องฝึกไว้ทุกวัน อย่างน้อย วันละ 5 นาที รับรองครับ เมื่อมีสมาธิซะอย่าง การทำงานใดๆ จะง่ายและถูกต้องอย่างน่าประหลาด 5. คิดเอาเองว่า คิดวิธีได้แล้ว ดังนั้น การทำก็ไม่ยากจึงรวบลัดเพื่อให้ได้คำตอบ 6. แม้จำสูตรได้ แต่ขาดรายละเอียด หรือจำสูตรได้ไม่ครบทุกตัว ข้อ 5 กะ 6 รวมกันนะครับ แก้โดย วิธีในข้อ 2. ครับ คือ เพิ่มรายละเอียด และขั้นตอนการทำ ส่วนสูตรนั้นให้ท่อง โดยนึกเป็นภาพ ทุกสูตรไป ทำไปวันละ สูตรเดียว พอรุ่งขึ้นในช่วงเช้าให้นึก ภาพของสูตรอีกครั้ง ทำบ่อยๆ จะจำได้ขั้นใจ วันไหนไม่แน่ใจ ให้ลองนึก ทบทวนดู ว่าจำได้หรือไม่ ขั้นตอบต่อไป ให้คิดต่อไปว่า สูตรมีที่มา หรือการโยงของสูตรนั้น มันโยงไปทางไหนได้บ้าง เขียนเป็น mind map ขึ้นมาในสมอง โดยไม่ต้องทดกระดาษ พยายามฝึกทำ ฝึกคิด และสร้างสมาธิ สร้างวินัยให้แก่ตนเอง เมื่อทำได้แล้ว ผลงานจะออกมาดีมาก พอจบไป ได้ทำงาน คุณจะเป็นดาวเด่นในที่ทำงาน และจะมีความก้าวหน้าในหน่วยงานมากกว่าใครๆ ขอให้โชคดี และประสบผลสำเร็จครับ

วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2551

บทความครูคณิตยุคใหม่

ครูคณิตศาสตร์ยุคใหม่เตรียมลบวิชาน่าเบื่อ
โดย ผู้จัดการรายวัน
ผู้จัดการออนไลน์ - สสวท.เปิดคอร์สเทคนิคการสอนสไตล์ใหม่วิชาคณิตศาสตร์ให้ครูสอนเลขทั่วประเทศ เน้นกิจกรรมสอดแทรกความรู้ เด็กเข้าใจง่าย จำได้แม่นยำ เผยเตรียมลบคำวิชา น่าเบื่อ
ว้า!น่าเบื่อจัง ไม่อยากเรียนวิชาเลข...เลย ไม่รู้จะเรียนไปทำอะไรนักหนา เป็นคำพูดที่เราได้ยินคุ้นหู เมื่อสมัยที่เป็นนักเรียนกระโปรงบาน ขาสั้น คือ เรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 จนถึงชั้นมัธยมศึกษา ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก ทั้งชั่วโมงคุณครูก็จะให้นั่ง บวก ลบ ถอด สแควร์รูท หาค่า x, y ในสมการ จนปวดสมอง ทำให้มีผู้ที่สนใจที่จะเข้าเรียนวิชาคณิตศาสตร์อย่างจริงจังน้อยมาก และอาจจะส่งผลให้โรงเรียน ทั่วประเทศขาดแคลนครูคณิตศาสตร์ที่มีประสิทธิ ภาพในอนาคตได้
นอกจากปัญหาความน่าเบื่อในเรื่องของรูป แบบการเรียนการสอนสมัยเดิมแล้ว ยังมีอีกหลาย เรื่องที่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนคณิตศาสตร์ อาทิ การขาดแคลนครูที่มีประสิทธิภาพ ครูที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรงจะสามารถจูงใจให้เด็กๆ รักที่จะเรียนวิชานี้ได้
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ใน การพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนวิทยา ศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งครูผู้สอนวิชาดังกล่าวให้มีคุณภาพเข้มข้น สามารถขยายผลความรู้ไปสู่เพื่อนครูในวงกว้าง ได้จัดอบรมวิทยากรหลักกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิต ศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาขึ้น โดยมุ่งพัฒนาครูผู้สอนคณิตศาสตร์ให้สามารถจัดกิจกรรมการเรียน รู้คณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาในห้องเรียนบรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอด คล้องกับแนวทางการปฏิรูปการศึกษา เพื่อให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ได้ฝึกการคิด ฝึกการแก้ปัญหา สามารถให้เหตุผล รวมถึงเชื่อมโยงความรู้สาขาวิชาต่างๆ เข้าด้วยกัน จุดเด่นนักเรียนไม่ต้องท่องจำเป็นนกแก้วนกขุนทอง หรือคอยมองตัวหนังสือบนกระดานดำอยู่ในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว
ดังนั้น สสวท. ได้อบรมครูในเขตพื้นที่การ ศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศ กว่า 144 คน ซึ่งเป็นการ อบรมวิทยากรหลักกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิต ศาสตร์ โดยอาจารย์บุญชอบ แย้มพราม โรงเรียน พิริยาลัย จังหวัดแพร่ กล่าวว่าที่โรงเรียนอยู่ในระหว่างการทดลองใช้กระบวนการของการเป็นวิทยากรแกนนำ ในการแก้ไขปัญหาการเรียนการ สอนคณิตศาสตร์ตั้งแต่ชั้นมัธยมต้น ที่ผ่านมาเราจะพบว่าครูมักเน้นเนื้อหามาก เพราะเข้าใจว่าเนื้อหาเป็นสิ่งที่นักเรียนควรจะรู้ไว้มากๆ โดยไม่ได้คำนึงถึงกระบวนการคิด
"เมื่อชี้แจงให้เพื่อนครูเข้าใจหลักสูตรคณิตฯ แนวใหม่ บอกเขาว่าสาระไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพียงแต่เปลี่ยนกระบวนการเรียนการสอน ครูต้องเตรียมตัวในการสอนเพิ่มขึ้น หากิจกรรมต่างๆ ที่สอดคล้องกับชั่วโมงเรียนนั้น การเรียนแบบผสมผสานทำให้เด็กเกิดความสนใจและเข้าใจได้รวดเร็ว"
ขณะที่อาจารย์โสภัณ ดวงทองพล ศึกษา นิเทศก์ สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่าปัญหาที่พบมากที่สุดในการสอน คณิตศาสตร์ ก็คือ ผู้สอนสอนไม่ตรงกับวิชาเอกที่เรียนมา ไม่มีพื้นฐานการสอนคณิตศาสตร์ เวลาไปจัดกิจกรรมการเรียนการสอน จะไม่ได้ผล ตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่ครูบางคนที่ได้รับการ อบรมแล้ว มักย้ายไปโรงเรียนอื่นทำให้โรงเรียนเสียโอกาสในการนำความรู้ที่ได้มาช่วยกันพัฒนา การเรียนการสอน ส่วนแนวทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด การจัดอบรมให้ครูและมีนิเทศก์ติดตามการปฏิบัติงาน "ไม่ใช่ไปจับผิด แต่ต้องการดูว่านำความรู้ที่ได้อบรมไปใช้มากน้อยเพียงใด"
อาจารย์สุวรรณ มุ่งฝากกลาง วิทยากรแกน นำ กล่าวถึงการติดตามความคืบหน้าว่า ครูส่วนใหญ่จะจัดการเรียนการสอนตามคู่มือที่กรมวิชาการและสสวท.กำหนดไว้ ส่วนหัวใจของคณิต ศาสตร์ ผู้สอนยังไม่เข้าใจบทบาทหรือการปรับเปลี่ยนแนวการสอนซึ่งสอดแทรกสาระต่างๆ
อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญที่จะทำให้การเรียนการสอนคณิตศาสตร์ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงหลักสูตร หรือเนื้อ หาวิชาเท่านั้น แต่ยังคงขึ้นอยู่กับตัวผู้สอนจะมีกลยุทธ์ เคล็ดลับอะไรที่จะนำเสนอต่อผู้เรียน เพื่อ ให้ผู้เรียนมีความเข้าใจในสิ่งที่เรียนมากขึ้น อีกทั้งลบคำเบื่อของนักเรียนด้วย